เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๗ นางจิราพร สุดานิช กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว พร้อมด้วยข้าราชการสถานกงสุลใหญ่ฯ เดินทางเยือนเมืองจงซาน มณฑลกวางตุ้ง เพื่อพบหารือกับผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และลงพื้นที่ศึกษาติดตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจในเมืองทั้งสองที่มีบทบาทสำคัญในเขต Guangdong-Hong Kong-Macao Greater Bay Area (GBA) เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจถึงโอกาสความร่วมมือสำหรับภาคธุรกิจและภาคประชาชนของฝ่ายไทยในระยะต่อไป

ในการเยือนเมืองจงซาน กงสุลใหญ่ฯ ได้พบหารือนายเจียง จี้ (Jiang Ji) ผู้อำนวยการสำนักงานต่างประเทศเมืองจงซาน พร้อมด้วยผู้แทนจากพรรคคอมมิวนิสต์ตำบลกู่เจิ้น เมืองจงซาน และผู้แทนภาคธุรกิจในตำบลกู่เจิ้นกู่เจิ้น (Guzhen) โดยได้แลกเปลี่ยนข้อมูลศักยภาพทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย รวมถึงหารือแนวทางส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทย-เมืองจงซาน พัฒนาการของความเชื่อมโยงในพื้นที่ GBA โดยเฉพาะสะพานเชื่อมเมืองเซินเจิ้น-เมืองจงซาน (ShenZhong Bridge) ที่ย่นระยะเวลาการเดินทางจากเดิม ๒ ชั่วโมงเหลือ ๒๐ นาที การผลักดันความร่วมมือระหว่างเมืองจงซานและเมืองหรือจังหวัดในประเทศไทย และกิจกรรมในโอกาสวันครบรอบ ๕๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน พร้อมกันนี้ กงสุลใหญ่ฯ และคณะได้เข้าเยี่ยมชมบริษัท HuaYi  Lighting Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบและผลิตโคมไฟและหลอดไฟคุณภาพสูง ที่มีความร่วมมือกับโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ รวมถึงมีหุ้นส่วนในกว่า ๑๐๐ ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ ตำบลกู่เจิ้นเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำด้านแสง หลอดไฟ และโคมไฟ ได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองหลวงด้านแสงสว่าง (lighting) มีการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าวตั้งแต่ปี ๒๕๒๕ และปัจจุบัน มีการจัด Lighting Exhibition เป็นงานแสดงสินค้าสำคัญประจำปี ในขณะที่อุตสาหกรรมด้านแสงสว่างของเมืองจงซานมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ ๗๐ ของตลาดโลก

ในการเยือนเมืองจงซานครั้งนี้ คณะผู้แทนสถานกงสุลใหญ่ฯ ยังได้เยี่ยมชมพื้นที่จัดแสดง Industrial High-Quality Consumer Products Exhibition ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์ Cuiheng International Science and Technology Innovation Center โดยจัดแสดงสินค้าคุณภาพสูงที่ผลิตในเมืองจงซาน อาทิ เครื่องใช้ในบ้าน อาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม โคมไฟ ของใช้ในชีวิตประจำวัน เฟอร์นิเจอร์อัจฉริยะ เครื่องแต่งกาย ของเล่น และเกม เป็นต้น และมุ่งเชื่อมต่อผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์มการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์และถ่ายทอดสด ซึ่งถือเป็นรูปแบบการตลาดที่สำคัญของชาวจีนในยุคปัจจุบัน และการจัดแสดงแบบออฟไลน์