เมื่อวันที่ ๑๐-๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘  นางสุพัตรา ศรีไมตรีพิทักษ์ กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจวและทีมประเทศไทย ได้เดินทางไปเมืองจ้านเจียงเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองบนเรือหลวงกระบุรี ตามคำเชิญของสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ในโอกาสนี้กงสุลใหญ่และคณะได้ไปเยี่ยมชมการดำเนินงานบริษัท Chia Tai (Zhanjiang) Modern Agriculture Investment Co.,Ltdซึ่งเป็นบริษัทในเครือซีพี ท่าเรือโบราณและพิพิธภัณฑ์ประจำอำเภอสวีเหวิน เมืองจ้านเจียง

วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘  กงสุลใหญ่และคณะ เดินทางไปเยี่ยมชมการดำเนินงานของบริษัท Chia Tai (Zhanjiang) Modern Agriculture Investment Co.,Ltd  โดยมีนายฟาน จื้อหยง ผู้จัดการทั่วไปบริษัท Chia Tai (Zhanjiang) แนะนำความเป็นมาของบริษัทฯ และพาคณะเดินชมโรงเลี้ยงไก่ที่ทันสมัยซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ ๑๒๖ เอเคอร์ประกอบด้วยอาคารเลี้ยงไก่ ๗ หลัง แต่ละหลังมีกรงเลี้ยงไก่แบบ ๔ ชั้นจำนวน ๗ แถว มูลค่าการลงทุน ๑๒,๐๐๐ ล้านหยวน จัดเป็นโรงงานเลี้ยงไก่ที่ใหญ่เป็นอันดับ ๒ รองจาก
ที่มณฑลจี๋หลิน มีกำลังการผลิตไก่ปีละ ๑๐๐ ล้านตัว และควบคุมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ทั้งหมด โดยมีผู้ควบคุมเพียง ๗ คน เป็นอุตสาหกรรมการเกษตรสมัยใหม่เพื่อการผลิตไก่จำนวนมากเพื่อการค้า โดยนำต้นแบบมาจากโครงการที่สระบุรีและชลบุรี ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างรอการติดตั้งโรงงานแปรรูปซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี ๒๕๕๘ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการเลี้ยงสุกร ๑ ล้านตัวและโครงการเลี้ยงสัตว์น้ำ (กุ้งแชบ๊วย)ในพื้นที่อื่นของเมืองจ้านเจียง

ตอนค่ำ กงสุลใหญ่และคณะ เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองบนเรือหลวงกระบุรี โดยมี พล.ร.ต. ไตรสิทธิ์ พันธุ์สิทธิ์ ผู้บังคับหมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือ น.อ.จักษวัฎ สายวงศ์ ผบ.ร.ล.กระบุรี น.อ.วรุณ วีระกุล ผบ.ร.ล.บางปะกงและน.ท.ไวพจน์ วิระประเสริฐศักดิ์ ผบ.ร.ล.ปัตตานี ให้การต้อนรับ มีนายทหารระดับสูงจากกองทัพเรือเมืองจ้านเจียงและผู้บริหารบริษัท Chia Tai (Zhanjiang) เข้าร่วมงาน พร้อมหมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือ จำนวนเรือ ๓ ลำประมาณ ๑๕๐ คน ในการนี้ น.อ.จักษวัฎ สายวงศ์ ผบ.ร.ล.กระบุรี นำกงสุลใหญ่และทีมประเทศไทยเยี่ยมชมห้องปฎิบัติการต่าง ๆ ภายใน เรือหลวงกระบุรี เช่น ส่วนการติดตั้งระบบอาวุธ ห้องบังคับเรือ ตลอดจนยุทโธปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในเรือ

วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘  กงสุลใหญ่และคณะ เดินทางไปทัศนศึกษาพิพิธภัณฑ์และท่าเรือโบราณอำเภอสวีเหวิน โดยมีนายอู๋ ข่าย ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ประจำอำเภอสวีเหวินต้อนรับ นำกงสุลใหญ่และคณะ ชมห้องจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของอำเภอสวีเหวิน เมืองจ้านเจียง ซึ่งได้รับขนานนามว่าเป็น“เมืองแห่งท่าเรือ” เนื่องจากตั้งอยู่ทางใต้สุดของมณฑลกวางตุ้งและแผ่นดินจีน ตรงข้ามมณฑลไห่หนาน(เกาะไหหลำ) เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ อำเภอสวีเหวิน จัดตั้งมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น เดิมมีชื่อว่า “เมืองเหอจุน” มีพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมไปถึงบางเขตในมณฑลกว่างสี อำเภอสวีเหวินและเมืองเหลยโจว มณฑลกวางตุ้ง ในพื้นที่อำเภอสวีเหวิน ได้ขุดพบเครื่องมือเครื่องใช้โบราณในครัวเรือน รูปปั้นและหินแกะสลักจำนวนมากที่เป็นหลักฐานยืนยันว่าสวีเหวินคือจุดเริ่มต้นแห่งหนึ่งและเป็นจุดแวะพักของการเดินเรือตามเส้นทางสายไหมทางทะเลในอดีต ในปัจจุบันได้เก็บรักษาเครื่องมือและหลักฐานต่าง ๆ เหล่านี้ไว้ ทั้งที่พิพิธภัณฑ์ประจำอำเภอสวีเหวินแห่งนี้และพิพิธภัณฑ์ในนครกว่างโจว

เมืองจ้านเจียงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางการค้ามาตั้งแต่สมัยโบราณและในปัจจุบันศักยภาพทางด้านการค้ากับต่างประเทศก็เพิ่มมากขึ้น เมืองจ้านเจียงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเป็นเมืองท่าสำคัญทางเศรษฐกิจกับประเทศต่าง ๆ ตามนโยบายความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ บนเส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ ๒๑ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการติดต่อค้าขายกับจีนมาอย่างยาวนาน